มนุษย์ต่างดาว สิ่งมีชีวิตต่างดาวอาจถือกำเนิดจากสารอนินทรีย์

มนุษย์ต่างดาว
admin Avatar

มนุษย์ต่างดาว บรรดานักชีวดาราศาสตร์ได้สันนิษฐานกันมานานแล้วว่า หากสิ่งมีชีวิตต่างดาวมีอยู่จริง พวกเขาอาจถือกำเนิดขึ้นมาด้วยธาตุองค์ประกอบซึ่งแตกต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิงก็เป็นได้ โดยเซลล์ของสิ่งมีชีวิตต่างดาวอาจไม่ได้มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักเหมือนกับสัตว์โลกโดยทั่วไป ทั้งอาจถูกสร้างขึ้นมาจากสารประกอบอนินทรีย์ (inorganic compound) อย่างเช่นสารประกอบซิลิคอนด้วยซ้ำ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมเคมีอเมริกัน (JACS) ฉบับวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา วิธี เล่น บา คา ร่า ให้ รวย ระบุว่าปฏิกิริยาเคมีที่เป็นหัวใจสำคัญในการให้กำเนิดและแพร่ขยายเผ่าพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งเรียกว่าการเร่งปฏิกิริยาอัตโนมัติ (autocatalysis) สามารถจะเกิดขึ้นกับสารอนินทรีย์ได้ และอาจจะเป็นปัจจัยพื้นฐานที่นำไปสู่การให้กำเนิดชีวิตจากสิ่งที่ไร้ชีวิต (abiogenesis)

ทีมผู้วิจัยพบว่า วงจรการเร่งปฏิกิริยาอัตโนมัติเหล่านี้ สามารถใช้สารอนินทรีย์อย่างเช่นปรอท (Hg) โลหะกัมมันตรังสีอย่างทอเรียม (Th) รวมทั้งก๊าซเฉื่อยอย่างซีนอน (Xe) โดยมักจะเป็นปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในสภาวะอุณหภูมิและความดันสูงหรือต่ำผิดปกติ

องค์กร “เซติ” (SETI) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงในด้าน สล็อตค่ายใหญ่ เว็บตรง การค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาวมานานหลายสิบปี มนุษย์ต่างดาว ได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ซึ่งระดมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ “วาระแรกพบ” ระหว่างมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาว ที่ไม่แน่ว่าอาจมีขึ้นในเร็ววันนี้ก็เป็นได้

นักมานุษยวิทยาและนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันหลายคน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าวด้วย ซึ่งพวกเขาแสดงความเห็นว่า หากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาวมีจริงและได้ค้นพบโลกของเราแล้ว พวกเขาอาจไม่พอใจต่อการดักฟังสัญญาณวิทยุจากห้วงอวกาศ อย่างเช่นโครงการ Breakthrough Listen ของเซติก็เป็นได้ เพราะเป็นการกระทำที่สร้างความหวาดระแวงให้กับเอเลียน ซึ่งอาจทำให้พวกเขาไม่เป็นมิตรกับชาวโลก

ผู้เชี่ยวชาญบางรายเสนอบทเรียนจากประวัติศาสตร์โลกว่า มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่การเริ่มต้นความสัมพันธ์ผิดพลาด จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย อย่างเช่นการตกเป็นทาสหรือถูกทำให้สูญสิ้นเผ่าพันธุ์โดยเอเลียนได้ ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของการล่าอาณานิคมโดยชาติมหาอำนาจตะวันตก การพบปะกันระหว่างคนแปลกหน้าจากต่างดินแดน ได้นำไปสู่สิ่งเลวร้ายนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรง โรคระบาด การค้าทาส รวมไปถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

หากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวมีอยู่จริง และกำลังเสาะแสวงหาเพื่อนร่วมกาแล็กซี สัญญาณของโทรศัพท์มือถือที่รั่วไหลจากเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมนับล้านแห่งบนโลก อาจถูกตรวจจับได้โดยอารยธรรมต่างดาวที่มีความเจริญระดับสูง ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้ว่ามีอารยธรรมของมนุษย์อยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารรายเดือนของราชสมาคมดาราศาสตร์ (MNRAS) ระบุว่า “เอเลียน” ที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งอาจมีอยู่ในระบบดาวที่ใกล้ชิดกับระบบสุริยะของเรา น่าจะตรวจจับสัญญาณวิทยุที่รั่วไหลออกจากเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมบนโลกได้นานแล้ว

ยิ่งเครือข่ายโทรคมนาคมบนโลกหนาแน่นขึ้น รวมทั้งส่งสัญญาณได้แรงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนกับจุดคบไฟให้มนุษย์ต่างดาวสังเกตเห็นเราได้เป็นวงกว้างยิ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันสัญญาณจากมนุษย์อาจตรวจพบได้ทั่วทั้งกาแล็กซีทางช้างเผือก

ผลการทดสอบพบว่า สัญญาณโทรคมนาคมบางอย่าง เช่นคลื่นวิทยุจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสัญญาณสื่อสารผ่านดาวเทียม สามารถจะไปถึงระบบดาวที่มีดาวฤกษ์ศูนย์กลางอยู่ใกล้กับระบบสุริยะของเราได้ อย่างเช่นดาวบาร์นาร์ด (Barnard’s star) ดาวฤกษ์ชนิดดาวแคระแดงที่อยู่ห่างออกไป 6 ปีแสง ซึ่งมีดาวเคราะห์ขนาดใหญ่คล้ายโลกเป็นบริวาร

หากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาวมีอยู่จริง และกำลังค้นหาเพื่อนร่วมจักรวาลอยู่ เหมือนกับที่มนุษย์โลกกำลังพยายามมองหามนุษย์ต่างดาวหรือเอเลียนอยู่ในทุกวันนี้ โอกาสที่กล้องโทรทรรศน์หรือยานสำรวจอวกาศของพวกเขาจะตรวจจับดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตได้ มีอยู่แค่ไหนกันแน่ ?

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร MNRAS ของราชสมาคมดาราศาสตร์อังกฤษ เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า หากมีเอเลียนที่ค้นหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอื่นจริง สภาพแวดล้อมของโลกเราในปัจจุบันจะไม่ส่งสัญญาณบ่งชี้ทางชีวภาพ (biomarkers) ที่โดดเด่นสะดุดตามากนัก ต่างจากยุคดึกดำบรรพ์ในตอนที่ไดโนเสาร์ยังครองโลกอยู่ เพราะขณะนั้นโลกเต็มไปด้วยสัญญาณชีพที่จะดึงดูดความสนใจจากเอเลียนได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ผู้วิจัยได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของสิ่งแวดล้อมโลกตลอดช่วง 540 ล้านปีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงบรมยุคฟาเนอโรโซอิก (Phanerozoic Eon) จนพบว่ามีสัญญาณของคู่สารอินทรีย์ที่น่าสนใจ 2 คู่ ปรากฏขึ้นมาอย่างโดดเด่นชัดเจนในช่วง 100-300 ล้านปีที่แล้ว ได้แก่คู่ของออกซิเจนกับมีเทน (O2 / CH4) และคู่ของโอโซนกับมีเทน (O3 / CH4) ซึ่งมาจากการแผ่ขยายตัวของป่าไม้ และการปลดปล่อยออกซิเจนสู่ชั้นบรรยากาศของพืช

หากมีอารยธรรมของเอเลียน ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์สำรวจดวงดาวแบบเดียวกับที่มนุษย์ใช้ อุปกรณ์ดังกล่าวจะสามารถตรวจจับสัญญาณของออกซิเจนและมีเทน ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่มาจากสิ่งมีชีวิตบนโลกได้อย่างง่ายดาย โดยการวิเคราะห์สเปกตรัมของแสงขณะโลกเคลื่อนผ่านตัดหน้าดวงอาทิตย์ในปรากฏการณ์ทรานซิต (transit) จะชี้ให้เอเลียนเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สิ่งมีชีวิตจำนวนมากจะอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *